บันทึกสะท้อนคิด วัน ศุกร์ ที่ 26 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2558
                          วันนี้ที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านซับศรีจันทร์ อากาศดีมากลมเย็นสบายไม่ร้อน หลังจากที่  ครู รับเด็ก และ ทำกิจกรรมประจำวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครู ก็พาเด็กๆนักเรียน ออกไปเล่นกลางแจ้งข้างนอกห้องเรียน เพื่อให้เด็กๆนักเรียนได้ ออกกำลังกาย แตะบอล. โยนบอล วิ่งเล่น ตามปะสาเด็ก วันนี้ ครู เห็นเด็กๆนักเรียน มีความสุขร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนาน กันทุกคน ครู ก็พลอยดีใจที่เห็นเด็กๆนักเรียนมีความสุข และ ครู ก็มีความสุขไปด้วย

บันทึกสะท้อนคิด  วัน พฤหัสบดี ที่ 25 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2558
                         วันนี้ ครู มาเช้ากว่าเช่นเคยเพื่อที่จะมาตรวจดูความเรียบร้อยของโรงเรียน จากนั้นก็รอรับเด็กนักเรียนจากผู้ปกครองเช่นเคย วันนี้หลังจากทำกิจกรรมประจำวันเสร็จแล้ว ไม่นานหนัก คณะที่ทำงานไฟฟ้าลำตะคลองคลองไผ่ ก็เดินทางมาถึงที่โรงเรียน เจ้าหน้าที่ของไฟฟ้ามากันเยอาะมาก เผื่อที่จะมาเลี้ยงอาหารกลางวัน เด็กๆนักเรียน  ครู พาเด็กๆเข้าแถวแล้วเดินไปรวมกับพวกพี่ๆที่ห้องประชุม และ ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน มีทั้ง ก๋วยจั๊บ ขนมเค้ก ไอศครีม เด็กๆได้รับประทานกันอิ่มทุกคน จากนั้นก็ถ่ายรูปร่วมกันทุกคน และ วันนี้ เด็กๆน่ารักทุกคน ไม่ดื้อ ไม่ชน นั่งเป็นระเบียน เรียบร้อย คณะที่มาเลี้ยงอาหารกลางวันนี้ชมเชย เด็กๆกันทุกคนวันนี้ครูรู้สึกภาพภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง 

บันทึกสะท้อนคิด วัน พุธ ที่ 24 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                          ทกุๆเช้า ครู ก็จะรอรับ เด็กนักเรียนจาก ผู้ปกครอง เหมือนเช่นเคย และ วันนี้หลังจากที่ครูรับเด็กนักเรียนจนหมด ครู ก็ตรวจสุขภาพ พาเด็กๆเข้าห้องนำ้ เข้าห้องพาเด็กๆทำกิจกรรมประจำวันเช่นเคย จากนั้น ครู ก็ให้เด็กๆนั่งกันเป็นวงกลม ส่วน ครู ก็นั่งลงไปที่พื้นเหมือนกับเด็กๆแต่ ครู นั่งอยู่ตรงกลางวงกลมของเด็กๆเด็กทุกคนนั่งเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้ว ครู ก็เล่าและแจ้งข่าวดีให้เด็กๆฟังถึงเรื่องวันพรุ่งนี้ ว่าจะมี คณะที่ทำงานอยู่ที่โรงไฟฟ้าลำตะคลอง. จะมาเลี้ยงอาหารกลางวัน และ จะนำของเล่นมาแจก เด็กๆตั้งใจฟัง และ พากันตบมือดีใจ ที่ครูเล่าให้ฟัง ครู จึงบอกเด็กๆต่อว่า พรุ่งนี้ เด็กๆจะต้องแต่งตัวให้สะอาดเรียบร้อย เด็กๆพากันยกมือ แล้วพากันพูดว่าหนูจะแต่งตัวสะอาดๆครูรู้สึกดีใจที่เห็นเด็กๆมีความสุข

บันทึกสะท้อนคิด วัน อังคาร ที่ 23 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                      เช้าวันนี้ ครู รอรับเด็กนักเรียนเหมือนเช่นเคย วันนี้ ครู สังเกตเห็น เด็กชายคนหนึ่ง ชื่อน้อง แมนยู น้องแมนยูไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมประจำวันกับเพื่อนๆครูพอรู้เลยว่า น้องแมนยู เป็นอะไรที่ น้องแมนยู ไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆเพราะ น้องสาวไม่มาเลยไม่มีคนสนิทอยู่ด้วยเพราะ น้องแมนยู จะติดน้องสาวมากกว่าเพื่อนๆคนอื่นๆ ครู ต้องไปนั่งข้างๆกับ น้องแมนยู โดยบอกและอธิบายหาวิธีพูดหลอกล้อ ให้ น้องแมนยู ได้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆน้องแมนยู ยอมรับฟังและน้องแมนยูก็เข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆครูภูมิใจที่เห็น น้องแมนยู เข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนร่วมห้อง และเล่นกับเพื่อนๆ

บันทึกสะท้อนคิด วัน จันทร์ ที่ 22 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                 ในช่วงเช้าครูรอรับเด็กนักเรียนจาก ผู้ปกครองเช่นเคย วันนี้ที่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านซับศรีจันทร์เริ่มจะเข้าสู้เหตุการปกติ เด็กนักเรียนคนไหนที่เคยร้องง้อแง ก็ลดน้อยลง พอครู อุ้มเอาจากผู้ปกครองเด็กก็หยุดร้องครูหลอกล้อเดียวเดี๋ยวก็หยุด และ เด็กเริ่มเข้ากับเพื่อนร่วมห้อง เล่นกับเพื่อนร่วมห้อง เริ่มเข้าร่วมทำกิจกรรมประจำวัน เริ่มกล้าที่จะบอกความต้องการ เริ่มรู้จักการรอคอย  วันนี้ ครูพาเด็กนักเรียน ร้องเพลงสั้นๆพร้อมทำท่าทางประกอบ เด็กๆชื่นชอบกันมาก ครูตบมือให้กำลังใจเด็กพร้อมกับคำชมเชยเด็กๆก็ตบมือตามครู พร้อมกับรอยยิ้ม ของเด็กๆทุกคน ครูเห็นเด็กมีความสุข ครูก็ดีใจ และ มีความสุขไปกับเด็กด้วย

บันทึกสะท้อนคิด วัน ศุกร์ ที่19 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
               ปัญหาที่พบ.            วันนี้หลังจากที่ ครู ได้รับเด็กตรวจสุขภาพพาเข้าห้องนำ้เรียบร้อยเข้าห้องทำกิจกรรม ถึงเวลาดื่ม นม ครู ก็ให้เด็กนักเรียนเข้าแถวเลียงคิวเพื่อรับ นม ไปดื่ม ครู พบว่ามีเด็กนักเรียนคนหนึ่งรีบวิ่งไปเอา ขวดนม มาให้ ครู เพื่อที่จะให้ ครู เทนม ใส่ขวดให้นั้นเอง.......
              จากการวิเคราะห์.       ครู รับรู้ได้ทันทีว่าเด็กนักเรียนคนนี้ติด ขวดนม และครู คิดว่าเด็กอยู่ที่บ้านคงจะ ดื่มนม จากขวดเป็นประจำ
                วิธีแก้ไขปัญหา.          ครู ได้คุยกับผู้ปกครองให้ช่วยกันที่จะทำให้เด็กเลิกดื่มนมจากขวดครูบอกถึงสาเหตุและของการดื่มนมจากขวดว่าเป็นอย่างไร  โดย ครู และ ผู้ปกครองต้องช่วยกันร่วมมือกันหาวิธี เพื่อ แก้ไขเรื่อง เด็กติดขวดนม 
                 ความคาดหวัง.            ครู อยากให้เด็กได้ดื่ม นม จากกล่อง หรือ จากแก้ว เหมือนกับเพื่อนๆคนอื่นๆจะดีกว่า เพราะ การที่เด็ก ดื่ม นม จากขวด จะทำ ให้เด็ก เกิดโรคฟันฝุ ฟันไม่สวย ยิ้มไม่สวย ปากก็ไม่สวย โดยภาพรวมอาจจะทำให้เด็กมี บุคลิก ที่ไม่ดี

บันทึกสะท้อนคิด วัน พฤหัส ที่ 18 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                          สาเหตุที่พบเห็น.       วันนี้ ครู มาแต่เช้า และ รอรับเด็กๆนักเรียน เช่นเคย วันนี้หลังจาก ครู พาเด็กนักเรียน ทำกิจกรรม เสร็จแล้ว ครู ก็ปล่อยให้เด็กนักเรียน ได้เล่น ตามมุม ต่างๆในห้อง ครู พบว่ามีเด็กคนหนึ่ง เล่นไป นั่ง ปัสวะ ไปโดยที่ไม่บอก ครู แถมยังนั่งเล่นได้ต่อเฉย แต่ เพื่อนๆร่วมห้องบอก ครู แทน
                           จากการวิเคราะห์.         ครู คิดว่า เด็กอาจนั่งเล่นจนเพิลนเกินไป  และ อีกเหตุผลหนึ่งเด็กนักเรียนคงไม่กล้าที่จะบอก ครู 
                           วิธีแก้ปัญหา.            ครู ค่อยๆสอนให้เด็กนักเรียนบอก ครู ในเวลาที่เด็กปวดปัสวะ หรือ ครู คอยถามเด็กอยู่เรื่อยๆที่สำคัญ ครู ต้องทำตัวให้เป็นกันเองและสนิทสนมต่อเด็กเพื่อที่เด็กจะได้ไม่รู้สึกเกรงกลัว ครู 
                            สิ่งที่คาดหวัง.        ครู อยากให้เด็กรู้จักกล้าบอก กล้าที่จะแสดงออก และ รู้จัก ปัสวะ ให้เป็นที่เป็นทาง เพื่อเป็นการสร้างนิสัย ฝึกให้เด็กได้มีระเบียนวินัย ในตนเองมากขึ้น

บันทึกสะท้อนคิด วัน พุธ ที่ 17 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                          ปัญหาที่พบ         ในโรงเรียนวันนี้พบว่าเด็กใหม่ร้องไห้หาพี่คอยแต่จะวิ่งออกนอกห้องเพื่อจะไปหาพี่ เพราะ พี่อยู่โรงเรียนเดียวกัน ที่สำคัญเด็กยังเล็กอยู่สมัครตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว แต่เพิ่งมา วันแรก
                           การแก้ปัญหา        ครูอุ้มเด็กให้ความอบอุ่นเด็ก เพราะเด็กยังเล็ก และ เพิ่งห่างอกพ่อแม่  ครูหาวิธี และ เทคนิค ต่างๆนาๆเพื่อใช้ในการหลอกล้อ เพื่อให้เด็กได้รับฟัง และ เชื่อ ที่ครูบอก และ ครูก็คุยกับพี่สาวของเด็ก ช่วงที่น้องอยู่กับครู เป็นไปได้ยังไม่ต้องมาให้น้องเห็น ครูบอกพี่สาวเด็กว่าเวลาที่อยูที่บ้านก็ช่วย หาวิธีหลอกล้อ น้องเรื่องมาโรงเรียนทำอย่างไรถึงจะไม่ให้น้องร้อง หรือ น้อง ร้องไห้น้อยลง
                          ความคาดหวัง              ครูอยากให้เด็กมาโรงเรียน ติดโรงเรียน ติดครู ติดเพื่อนๆ และ มาโรงเรียนแล้วเด็กไม่ร้อง ครู อยากให้เด็กได้รับความรู้ และ ได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆเหมือนกับเพื่อนๆร่วมห้องเดียวกัน 

บันทึกสะท้อนคิด วัน อังคาร ที่ 16 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
               ปัญหาที่พบ ในโรงเรียน บ้านซับศรีจันร์ ครูพบว่ามีเด็กบางคนที่เข้าใหม่ยังไม่ค่อยรักษาความสะอาดร่างกายเท่าไหร่ 
               การแก้ไข  ครูจะสอนให้เด็ก รักษาความสะอาดแบบง่ายๆและสอนเด็กทำบ่อยครั้งเพื่อที่เด็กจะได้เกิดความเคยชินและจำได้
                การแก้ไข    ครูแนะนำให้ผู้ปกครองช่วยครูอีกแรงหนึ่ง โดยให้ผู้ปกครองช่วยบอกสอนเด็กในเวลาที่อยู่ที่บ้านกับผู้ปกครอง
                 ผลสรุปที่ได้     เด็กรู้จักรักษาความสะอาดร่างกายดีขึ้น และ เด็กจะได้รู้จักรักษาความสะอาดร่างกายให้ติดเป็นนิสัยจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า  ครู กับ ผู้ปกครอง ภูมิใจที่ได้ร่วมมือกันช่วยกันอบรมสั่งสอนเด็ก ให้รู้จักรักษาความสะอาดร่างกาย

บันทึกสะท้อนคิด วัน จันทร์ ที่ 15 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
               เด็กมาใหม่ร้องไห้ไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนร่วมห้อง.    เนื่องจากผู้ปกครองเพิ่งพาเด็กมาวันแรก ทั้งๆที่ได้สมัครไว้ตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว
                วิธีแก้ไขปัญหา        ครูค่อยๆปลอมใจเด็ก ครูหาวิธีหลอกล้อเด็ก ครูอุ้มเด็กไปเล่นนอกห้องเรียน โดยพาเด็กร่วมห้องเดียวกันไปเล่นด้วย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ และ สถานที่
                  สิ่งที่ครูคาดหวัง.   อยากให้เด็ก หยุดร้องไห้ ติดเพื่อนๆติดโรงเรียน และ เด็กจะได้เข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆกับเพื่อนร่วมห้อง

บันทึกสะท้อนคิด วัน ศุกร์ ที่ 12 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                          วันนี้ครูก็มาโรงเรียนแต่เช้าเช่นเคยครูเปิดห้องเสร็จสับก็ออกมารอรับเด็กนักเรียนจากผู้ปกครอง แต่วันนี้เด็กมาน้อย เพราะแถวๆหมู่บ้านนี้มั่งจะใช้คำพูดว่า วัน เสาร์ น้อย วันนี้ครูก็พานักเรียนทำกิจกรรมประจำวันเหมือนกับทุกวัน จนถึงเวลาที่เด็กๆจะนอนพักผ่อนกลางวันและวันนี้ เวลาประมาณ 13:50 น.ฝนได้ตกอย่างแรงพร้อมกับมีลมแรงด้วย ในขณะที่ฝนตก และ เด็กๆนอนอยู่ก็ได้มีเสียงฟ้าร้องดังมาก ทันใดนั้นเอง มีเด็กคนหนึ่ง ชื่อว่า น้องตะวัน ได้ร้องแบบตกอกตกใจ จนครูต้องรีบวิ่งไปหา น้องตะวัน ครูได้กอด น้องตะวันเอาไว้  ซึ่ง ครู รับรู้ได้ทันทีว่า น้องตะวัน กลัวเสียงฟ้าร้องนั้นเอง ครู กอดและค่อยๆปลอมใจเพื่อที่ น้องตะวัน จะได้หายตกใจ และ ให้ความกลัว เบาบางลง 
                             สาเหตุ ที่ น้องตะวัน ร้องไห้ตกใจตื่น เหตุเพราะ น้องตะวัน กลัวเสียงฟ้าร้องนั้นเอง
วิธีแก้ไขปัญหา      ครูรีบวิ่งไปหา น้องตะวัน และ กอดไว้ปลอมใจน้องแล้วค่อยๆบอกเล่าถึงการที่ฟ้าร้องเสียงนั้นเป็นปรากฎการณ์ของธรรมชาติ น้องตะวัน ค่อยๆหยุดร้องไห้แล้วฟังครู เล่าด้วยความตั้งใจพร้อมกับซักถามครู ครูก็ตอบตามที่ น้องตะวันถามมา แล้ว ครู ก็พา น้องตะวัน นอนต่อโดยที่ครูได้นั่งอยู่ใกล้ๆจนกว่า น้องตะวัน จะหลับ  พอถึงเวลาเลิกเรียน ครู ก็รอส่งเด็กๆให้ผู้ปกครอง พอ ยาย ของ น้องตะวัน มารับ ครู จึงเล่า เหตุการ ตอนฝนตกให้ ยาย ของ น้องตะวันฟัง ยาย ของน้องตะวัน บอกครูว่า ทุกครั้งที่ฝนตกและมีฟ้าร้อง น้องตะวัน จะกลัวมากและร้องไห้ทุกครั้ง ครูเลยถาม ยาย ของ น้องตะวัน ว่าแล้ว ยาย ทำอย่างไร ยาย ก็ตอบว่า ทำเหมือน ครู ทำในวันนี้เลย แล้ว น้องตะวัน ก็หยุด เมื่อไม่มีเสียงฟ้าร้อง 
สรุปได้ว่า   ถ้าต่อไปมีฝนตกและมีฟ้าร้อง  ครู ต้องค่อย เข้าไปอยู่ใกล้ๆน้องตะวัน เพื่อที่ น้องตะวัน จะได้ไม่ต้องรู้สึกตกใจกลัวฟ้าร้อง หรือทำให้ น้องตะวัน ตกใจกลัวน้อยลงนั้นเอง.....
      นางสาว ชณัญญา แพ่งจันทึก รหัส 571031321159

นางสาว ชณัญญา แพ่งจันทึก 571031321159

บันทึกสะท้อนคิด วัน พฤหัส ที่ 11 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558 
                           วันนี้ครูมาโรงเรียนแต่เช้าเช่นเคยเพราะวันนี้มีกิจกรรมการไหว้วันนี้ครูก็ค่อยรับเด็กวันนี้เด็กนักเรียนถือ กวยดอกไม้ธูปเทียน มากันทุกคนเด็กๆพากันเอา กวยดอกไม้มาอวดครูกันทุกคนครูก็ชมเชยและให้กำลังใจเด็กแต่มีเด็ก 1คน ที่ร้องไห้มาเด็กคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงชื่อ น้องมุก ครูจึงถามผู้เป็นแม่ของน้องมุกแม่ น้องมุก บอกครูว่าเค๊าไม่อยากมาโรงเรียน ครูจึงถามต่ออีกว่าทำไมเพราะอะไร น้องมุก ถึงไม่อยากมาโรงเรียนแม่ น้องมุก บอกคูรว่า เค๊าไม่อยากได้ ดอกไม้สีขาว เพราะเมื่อเช้านี้เค๊าดู ทีวี เค๊าเห็น ดอกทานตะวัน ที่มีสีเหลืองสดสวย เค๊าจึงอยากได้ ดอกไม้แบบนั้นและสีนั้น จากนั้นครูก็เลยพา น้องมุก และ ชวนแม่น้องมุก เข้ามาคุยกันในห้อง
                            สาเหตุและที่มาที่ทำให้ น้องมุก ร้องไห้ไม่อยากมาโรงเรียนในวันนี้ ก็คือ น้องมุก ไม่พอใจกับดอกไม้ที่แม่หาให้ทำกวยให้ซึ่งเป็นสีขาวแต่ที่ น้องมุก อยากได้นั้นมันคือ ดอกทานตะวันที่เป็นสีเหลือง ตั้งหากที่ น้องมุก ได้เห็นได้ดูใน ทีวี 
                            วิธีแก้ปัญาหา ที่จะทำให้ น้องมุก หยุดร้องไห้และจะได้เข้าร่วมกิจกรรมการไหว้ครูในวันนี้ ครู ได้หาวิธีพูดคุยกับ น้องมุก  และอธิบายให้ น้องมุกฟังเรื่องดอกไม้ และ เรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย น้องมุก จึงค่อยๆหยุดร้องแล้ว ครู ก็เลยหันมาคุยกับแม่ของ น้องมุก ว่า แถวบ้านครู มีดอกเข็มสีเหลืองครูเลยรบกวนให้แม่ของ น้องมุก ไปตัดมาให้เพื่อที่จะเปลี่ยนให้ น้องมุก พอได้ดอกเข็มสีเหลืองมา ครูก็ให้แม่ของ น้องมุก เอาดอกไม้สีขาวออกจาก กวยใบตอง แล้วเอา ดอกเข็มสีเหลือง ใส่แทน พอน้องมุก เห็น น้องมุกกับหยุดร้องไห้ 
                              ผลสรุปที่ได้จากการแก้ปัญหา ปรากฎว่า น้องมุก พอใจดีใจและหยุดร้องไห้พร้อมกับรอยยิ้มที่เปลี่ยมสุขและยอมเข้าร่วมกิจกรรมการไหว้ครูในวันนี้ ทั้งครูและแม่ของ น้องมุก ต่างก็ยินดี และ ดีใจ ไปด้วยกัน และ นี้ก็เป็นผลที่เกิดจากความร่วมมือของ ครู และ แม่ ของ น้องมุก นั้นเองนะค่ะ......

บันทักสะท้อนคิด วัน พุธ ทึ่ 10 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
                          วันนี้ครูมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อที่จะรีบมาจัดเตรียมอุปกรณ์การทำ พานดอกไม้ ให้เด็กได้ร่วมกิจกรรมการไหว้ครูในวันพรุ่งนี้ แต่วันนี้เด็กนักเรียนมากันน้อยกว่าทุกวันเนื่องจากผู้ปกครองพาเด็กไป ชีควัคซีน ตามที่หมอนัด หลังจากที่ครูได้รอรับนักเรียน แล้ว ตรวจสุขภาพ พาไปห้องนำ้ เรียบร้อยแล้ว ครูก็พาเด็กเข้าห้องชักถามพูดคุยทักทายกับเด็กครูก็พาเด็กทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะในตอนเช้าจากนั้น ครู ก็สอนเด็กเกี่ยวกับเรื่องการไหว้ครู อธิบายให้เด็กได้รับฟังพอเข้าใจ เด็กทุกคนตั้งใจฟังและชักถาม จากนั้นครูก็พาเด็กๆนักเรียนออกไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ครู ให้เด็กนั่งเป็นวงกลมเพื่อที่จะให้เด็กทุกคนได้ดู ครู ทำพานดอกไม้ที่จะใช้ไหว้ครูในวันพรุ่งนี้เด็กทุกคนชื่นชอบดีใจและ ตั้งใจกันทุกคนเด็กๆอยากที่จะมีส่วนร่วมครูก็เปิดโอกาสให้เด็กๆได้หยิบจับและเด็กก็ชักถามตามปะสาของเด็กที่อยากรู้อยากเห็น
                             วันนี้เป็นวันที่มีความสุข ที่ครูเห็นเด็กๆร่าเริง ชื่นชอบ ดีใจ และ เด็กคงมีความสุขที่ได้เรียนรู้และเด็กได้รับประสบการณ์ใหม่ๆวันนี้เป็นวันที่มีความสุข ทั้ง ครู และ เด็กนักเรียน ถ้าเป็นไปได้ครูอยากเห็นเด็กๆเป็นดั่งเช่นวันนี้ทุกวันนะค่ะ

บันทึกสะท้อนคิด วัน อังคาร ที่ 9 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
เหตุการที่พบในวันนี้ ครูมาถึงโรงเรียนเวลา 07:10 น.เห็นเด็กนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวครูรีบจอดรถแล้วเดินไปหาเด็กเอาเด็กมากอดแล้วถามเด็กว่าหนูเป็นอะไรถึงร้องเด็กตอบครูทั้งร้องทั้งตอบแล้วเด็กก็ตอบว่าอยากให้แม่มาส่ง ครู เลยถามเด็กต่อว่าแล้วเมื่อกี้ใครมาส่งหนูเด็กตอบครูว่าพี่มาส่ง
        จากเหตุการครูพอรู้เลยว่าทำไมเด็กถึงอยากให้แม่มาส่ง เพราะ เด็กต้องการความรักความอบอุ่นจากแม่ จึง อยากให้ผู้เป็นแม่มาส่ง เพราะ แม่กับเด็กไม่ได้อยู่ด้วยกัน นานๆทีแม่ของเด็กจะมาเนื่องจากแม่ของเด็กไปทำงานที่ต่างจังหวัดเด็กจะอยู่กับตายายและเวลามาโรงเรียนพี่เป็นคนมาส่ง แต่พอแม่มาเด็กเลยอยากให้แม่มาส่งเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ
         จากเหตุการวันนี้ ครู ได้โทรคุยกับแม่ของเด็กอธิบายกับเหตุการเรื่องเมื่อเช้าให้แม่ของเด็กฟังและแนะนำให้แม่มาส่งเด็กก่อนในช่วงที่มาหรือช่วงที่อยู่กับเด็ก ให้ความรักความอบอุ่นเด็ก เพราะเด็กคงอยากให้แม่มาส่งเหมือนกับเพื่อนคนอื่นบ้าง และ ที่สำคัญ แม่มีเวลาอยู่กับเด็กน้อยมากครูได้อธิบายให้แม่เด็กเข้าใจ และ แม่เด็กก็รับฟัง
          จากเหตุการวันนี้ ที่ครูได้คุยกับแม่เด็กและเด็ก ครู คิดว่าผลที่ได้คือ แม่เด็ก ยอมมาส่งเด็กเองก่อนในช่วงที่ยังไม่ได้กับไปทำงานที่ต่างจังหวัด และ เด็กจะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้เหมือนเมื่อเช้านี้
            ( นางสาว ชณัญญา แพ่งจันทึก รหัส 571031321159)

บันทึกสะท้อนคิด วัน จันทร์ ที่ 8 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2558
    พบว่าเด็กที่เข้ามาใหม่ร้องไห้เนื่องจากเด็กยังเล็กและเพิ่งเข้ามาใหม่บวกกับเด็กๆเพิ่งได้ห่างจากอกพ่อแม่ เด็กไม่ยอมเล่นหรือร่วมกิจกรรมต่างๆกับเพื่อนๆร่วมห้องได้แต่ร้องไห้เดียวร้องเดียวหยุด
    จากเหตุการที่พบครูควรทำเช่นไร
ครูพาเด็กมานั่งคุยด้วยครูให้ความรักความอบอุ่นโดยการโอบกอดเด็กหาวิธีเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้เช่นการเล่านิทาน หรือ พูด ปลอมโยนหลอกล้อ เพื่อที่เด็กได้ฟังแล้วทำให้เด็กหยุดร้อง หรือ ร้องน้อยลงจากเดิม หรือ พาเด็กทำกิจกรรมแบบหลากหลายในห้อง หรือ กิจกรรมกลางแจ้ง ร่วมกับเพื่อนๆเมื่อครูสังเกตุเห็นว่าเด็กหยุดร้องและร่วมกิจกรรมรวมกับเพื่อนๆครูก็จะให้รางวัลเด็กและพูดให้กำลังใจเด็ก
      แนะนำให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในเหตุการที่ครูพบ
ครูต้องให้คำแนะนำผู้ปกครองอีกทางหนึ่งว่าควรพูดและปฎิบัติอย่างไรเพื่อที่ให้เด็กมาโรงเรียนแล้วเด็กไม่ร้อง หรือ ร้องน้อยลง
      ผลจากการที่ครูพบ และ ปฎิบัติเช่นนี้มาทุกปีที่เปิดเทอมมาใหม่หรือรับเด็กใหม่ ผลที่ได้เด็กจะค่อยๆร้องน้อยลง จนถึงหยุดร้อง เมื่อ เด็กได้มาโรงเรียนทุกวัน และ เด็ก ติดโรงเรียน และ ติดเพื่อนๆร่วมห้อง และ ที่สำคัญ ครูต้องรักและเมตตากับเด็กทุกคน
       (ที่ส่งย้อนหลังเพราะเพิ่งเข้าทำงานได้ค่ะขอบคุณค่ะ)